Foundation/International Foundation/International Year One
น้องๆที่สนใจในการเข้าเรียนระดับปริญญาตรีในประเทศอังกฤษและไม่มีคะแนน A level หรือ IB จะต้องเข้าเรียนหลักสูตรปรับพื้นฐานก่อน โดยหลักสูตรปรับพื้นฐานมีอยู่หลายแบบ และมีหลักเกณฑ์ในการเข้าเรียนที่แตกต่างกันเช่น:
1) มหาวิทยาลัยที่เปิดรับน้องๆเข้าเรียน International Foundation โดยน้องๆต้องจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5 ยกตัวอย่างเช่น University of Strathclyde, University of Sussex หรือ Durham University
2) มหาวิทยาลัยที่เปิดรับน้องๆเข้าเรียน International Foundation โดยน้องๆต้องจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ยกตัวอย่างเช่น University of Strathclyde, University of Sussex, Durham University, City University, Newcastle University, Newcastle University London, UEA, University of Manchester และ University of Exeter
3) มหาวิทยาลัยที่เปิดรับน้องๆเข้าเรียน International Year One โดยน้องๆต้องผ่านการเรียนในมหาวิทยาลัยในประเทศไทยในชั้นปีที่ 1 มาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น University of Strathclyde, University of Sussex, Newcastle University London, UEA และ University of Exeter
นอกเหนือจากนี้น้องๆยังมีทางเลือกที่จะเข้าเรียนหลักสูตร Foundation กับ สถาบัน INTO ที่มีที่ตั้งอยู่ที่เมือง London หรือ Manchester ซึ่งจะเปิดโอกาสให้น้องๆสามารถเลือกเข้าเรียนระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษที่เป็นพันธมิตรกับ INTO ได้กว่า 80 มหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็น University of Manchester, University of Nottingham, University of Leeds เป็นต้น
วิชาที่เปิดสอน
โดยหลักสูตรที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีความแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น:
-
Business and Management
-
Social Sciences and Arts
-
Engineering
-
Law
-
Life Sciences and Psychology
-
International Relations and Sociology
-
Computing
-
Media, Journalism and Film studies
-
Architecture
ระยะเวลาของหลักสูตร: 9-15 เดือน
ค่าใช้จ่าย: £ 14,000-18,000
เปิดภาคเรียน: January, September (ช่วงเวลาอาจมีความแตกต่างในแต่ละหลักสูตรหรือแต่ละมหาวิทยาลัย)
ทำไมถึงควรเรียน Foundation
1) Foundation นั้นเป็นหลักสูตรปรับพื้นฐานที่มุ่งเน้นเพื่อเปิดโอกาสให้กับน้องๆที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย และมีความตั้งใจจะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำตามต้องการ โดยน้องๆจะได้ปรับพื้นฐานทั้งภาษาอังกฤษ และด้าน academic ทำให้มีความคุ้นเคยกับระบบการเรียนการสอนในประเทศอังกฤษและเพิ่มความพร้อมเมื่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
2) ไม่เพียงเฉพาะน้องๆที่เรียนในโรงเรียนไทยเท่านั้น น้องๆที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่มีความต้องการจะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ประเทศอังกฤษแต่ยังไม่มีคะแนน A level หรือ IB เพราะน้องๆสามารถใช้คะแนน GCSE มายื่นเพื่อเข้าเรียน Foundation ได้เช่นกัน
3) น้องๆที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่มีความต้องการจะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ประเทศอังกฤษแต่คะแนนของน้องๆยังไม่ถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดก็สามารถเรียน foundation เพื่อปูพื้นฐานและเพิ่มโอกาสในการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ต้องการ
การเรียนต่อระดับปริญญาตรี ที่อังกฤษ
ระบบการเรียนของประเทศอังกฤษ นักเรียนจะต้องเรียน Year 1 – Year 9 จากนั้น เรียน Year 10 และ Year 11 เพื่อเตรียมสอบ IGCSE เมื่อจบ Year 11 ซึ่งเปรียบเสมือนการสอบเพื่อจบ High School จากนั้นนักเรียนจะมี 3 ทางเลือกคือ
1. เรียนต่อ Sixth Form ใน Year 12 – Year 13 เพื่อสอบ A-Level แล้วนำคะแนนไปยื่นระบบ UCAS เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยต่อไป หรือสามารถนำคะแนนไปยื่นเข้าหลักสูตร Foundation หรือ International Year One ตามมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรนี้เปิดสอน
2. เรียนจบ Year 11 แล้วสอบ IGCSE แล้วนำคะแนนไปยื่นเข้าหลักสูตร Foundation ตามมหาวิทยาลัยที่มีเปิดสอนหลักสูตรนี้
3. เรียนต่อ Year 12 เพื่อสอบ AS-Level แล้วนำคะแนนเข้ามายื่นเข้าหลักสูตร Foundation หรือ International Year One ตามมหาวิทยาลัยที่มีการเปิดสอนหลักสูตรนี้
โดยหลักสูตรการเรียนต่อระดับปริญญาตรีในอังกฤษจะใช้เวลาเรียนเพียง 3 ปีเท่านั้น
Pathways to University
คือโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนทั้งในและนอกประเทศอังกฤษสามารถมีทางเลือกในการสมัครเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้ โดยนักเรียนสามารถวางแผนได้เองว่าอยากจะเรียนจบปริญญาตรีภายในระยะเวลากี่ปี หรืออาจจะเป็น Plan B สำหรับนักเรียนที่รู้ตัวว่าเรียนคณะนี้ไปแล้วไม่ชอบต้องการเปลี่ยนสายการเรียนโดยไม่ต้องเสียเวลาไปยื่นคะแนน UCAS ใหม่ หรือสำหรับนักเรียนที่ต้องการจะเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษในหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่ตนเองต้องการ แต่กลัวว่าจะยื่นคะแนน UCAS ไม่ผ่าน ก็สามารถมาเลือกเรียนหลักสูตรนี้ได้ โดย Pathways จะแบ่งเป็น 2 หลักสูตรคือ
โดย Pathways จะแบ่งเป็น 2 หลักสูตรคือ
หลักสูตร Foundation เป็นหลักสูตร 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเรียนต่อปริญญาตรีในอังกฤษ โดยจะมุ่งเน้นการสอนตามกลุ่มวิชาที่นักเรียนอยากจะเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีซึ่งใช้เวลาเรียนเพียง 3 ปีก็จบปริญญาตรีแล้ว
เกณฑ์การสมัครเข้าหลักสูตร Foundation
• จบม. 5 ด้วยเกรด 2.5 หรือ
• จบม. 6 ด้วยเกรด 2.0-3.0 หรือ
• มีคะแนน IGCSE ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด หรือ
• มีคะแนน IB หรือ International Baccalaureate ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
• มีคะแนน AS หรือ A-Level ตามที่มหาลัยกำหนด หรือ
• มีคะแนนจบหลักสูตร High School จากต่างประเทศ ( NCEA Level 2 for NZ )
เกณฑ์คะแนน IELTS
• 5 – 6.0 ตามแต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด
ตัวอย่างของนักเรียนที่เข้า Pathways โดยผ่านหลักสูตร Foundation
ตัวอย่างที่ 1 น้อง A เรียนจบ Year 11 มีคะแนนสอบ IGCSE หรือ IB และคะแนน IELTS ผ่านเกณฑ์ของมหาลัยที่น้อง A ต้องการเข้า น้อง A สามารถสมัครเข้าเรียนหลักสูตร Foundation โดยเรียน 1 ปี แล้วเข้าเรียนต้องระดับปริญญาตรี อีก 3 ปี ก็จะจบได้รับใบปริญญาเลย สรุปแล้วใช้เวลา 4 ปี โดยไม่ต้องเสียเวลาอีก 2 ปีเพื่อเรียน Year 12-13 และสอบ A-Levels
ตัวอย่างที่ 2 น้อง B จบม.5 ที่โรงเรียนไทย ด้วยเกรด 2.9 และมีคะแนน IELTS ผ่านตามเกณฑ์ที่มหาลัยกำหนด น้อง B สามารถสมัครหลักสูตร Foundation 1 ปี และต่อมหาวิทยาลัยอีก 3 ปีก็จบปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ ทำให้น้อง B เรียนจบเร็วกว่าเพื่อนที่เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และมหาวิทยาลัยในไทย 1 ปี
ตัวอย่างที่ 3 น้อง C ที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เมืองไทย แล้วต้องการไปเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษ ก็สามารถสมัครเข้าหลักสูตร Foundation ได้ และเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอังกฤษอีก 3 ปี น้อง C ก็จะจบปริญญาตรีพร้อมเพื่อนที่เรียนเมืองไทยพอดี
ตัวอย่างที่ 4 น้อง D เรียน Year 12-13 ไปแล้ว มีคะแนน AS หรือ A-levels แล้วพลาดจากการยื่น UCAS หรือกังวลว่าจะได้ไม่มหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการผ่านระบบ UCAS ก็สามารถนำคะแนน AS หรือ A-Levels มาสมัครเข้าเรียนหลักสูตร Foundation เพื่อเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษในสาขาและมหาวิทยาลัยที่ต้องการได้เลย
หลักสูตรนี้เปรียบเสมือนกับการเรียนปี 1 ของมหาวิทยาลัยในอังกฤษ มุ่งเน้นการสอบเพื่อสาขาวิชาและมหาลัยที่เฉพาะเจาะจงยิ่งกว่าหลักสูตร Foundation และไม่ต้องมาเรียนปี 1 ซ้ำอีกรอบ คือ จบจาก International Year One ก็สามารถต่อปี 2 ของหลักสูตรปริญญาตรีที่อังกฤษได้เลย โดยหลักสูตร International Year One จะส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่สาขา Business และมีตัวเลือกของมหาวิทยาลัยน้อยกว่าหลักสูตร Foundation เหมาะสำหรับน้องๆที่รู้ตัวแล้วว่าอยากเรียนอะไรในระดับปริญญาตรี
ใครที่จะสมัครหลักสูตร International Year One ได้
1. น้องที่จบ ม. 6 ด้วยเกรด 2.3-3.0
2. น้องที่เรียนปี 1 ของมหาวิทยาลัยมาแล้ว
3. น้องที่มี AS หรือ A-Level ผ่านเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด และต้องผ่านเกณฑ์คะแนน IELTS 4.5-6.0 แล้วแต่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งกำหนด
ตัวอย่างการคำนวณเวลาเรียนง่ายคือ น้อง E จบม. 6 ที่เกรด 3.0 ต้องการไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ และอยากเข้าเรียนคณะ Business and Management ของ University of Exeter น้อง E สามารถสมัครเข้าเรียนหลักสูตร International Year One ได้เลย และเรียนต่อระดับปริญญาตรีอีก 2 ปีก็จบ ทำให้น้อง E จบปริญญาตรีภายใน 3 ปี เร็วกว่าเพื่อนๆที่เรียนเมืองไทย 1 ปี
หรือน้อง F ที่เรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยในเมืองไทยไปแล้ว แต่เปลี่ยนใจอยากไปเรียนต่อป.ตรีที่อังกฤษ ก็สามารถใช้เกรดตอนม.6 หรือเกรดตอนปี1 ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเกรดไหนดีกว่า เพื่อสมัครเข้าเรียนหลักสูตร International Year One ของคณะและมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรนี้ได้เลย ทำให้น้อง F เรียนจบระดับปริญญาตรีพร้อมเพื่อนที่เมืองไทย
ตัวอย่างสุดท้ายคือ น้อง G เรียนจบ Year 12 หรือ Year 13 มีคะแนน AS หรือ A-Level แล้ว ต้องการเข้าเรียนที่คณะ Engineering ที่ University of Exeter โดยคะแนน AS หรือ A-Level ผ่านเกณฑ์การรับเข้าหลักสูตร International Year One ก็สามารถสมัครเข้าเรียนได้เลย ทำให้น้อง G ได้เข้าเรียนในคณะและมหาวิทยาลัยที่น้อง G ต้องการเข้าเรียนโดนไม่ต้องเสี่ยงกับระบบ UCAS พร้อมกับได้จบปริญญาตรีพร้อมกับเพื่อนที่เข้ามหาวิทยาลับผ่านระบบ UCAS อีกด้วย
นี่เป็นตัวอย่างคร่าวๆเพื่อให้น้องๆได้เข้าใจในหลักสูตร Foundation และ International Year One ที่จะเป็น Pathways เข้าสู่มหาวิทยาลัยที่น้องๆต้องการเรียนในอังกฤษ ข้อดีก็คือสามารถร่นระยะเวลาเรียนของน้องๆที่ต้องการจะจบเร็วกว่าเพื่อนได้ เรียกได้ว่าประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลาโดยเฉพาะน้องๆที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่เมืองไทย และ High School ที่ต่างประเทศได้เลย
น้องๆคนไหนสนใจหลักสูตรเหล่านี้ สามารถมาปรึกษาพี่ๆ Mango Learning Express ได้เลย ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลยนะจ๊ะ
หลักสูตร Foundation และ International Year One เป็น Pathways เข้าสู่มหาวิทยาลัยที่นักเรียนต้องการเรียนในอังกฤษ ข้อดีก็คือสามารถร่นระยะเวลาเรียนได้ ทำให้ตัวนักเรียนเองสามารถวางแผนการเรียนระดับปริญญาตรี ได้ทั้งระยะเวลา และค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ไปกับการเรียนตั้งแต่ High School เลยทีเดียว
กรอกข้อมูลเพื่อประเมินโปรไฟล์เบื้องต้น และรับคำแนะนำจากทีม consult โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น